When East meets West เมื่อแพทย์แผนจีนพบกับแพทย์แผนตะวันตก

หลายท่านอาจจะเข้าใจว่าการรักษาโรคนั้น จำเป็นที่จะต้องเลือกแพทย์แผนเดียวเข้ามาดูแล ซึ่งไม่จำเป็นเสมอไปครับ

ในประเทศจีน เนื่องจากเป็นประเทศต้นตำรับแพทย์แผนจีนอยู่แล้ว ดังนั้นในโรงพยาบาลต่าง ๆ ก็มักจะมีแผนกแพทย์แผนจีนทำงานร่วมกับแผนกแผนปัจจุบันเสมอ ซึ่งจริงๆ แล้วการแพทย์ผสมผสานแบบนี้เริ่มมาตั้งแต่ในระดับมหาวิทยาลัยครับ

อย่างขณะที่ผมศึกษาอยู่ที่เซี่ยงไฮ้นั้น ในหลักสูตรก็มีสัดส่วนการเรียนวิชาของแพทย์แผนปัจจุบันอยู่เกือบครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นกายวิภาค การตรวจวินิจฉัย ไปจนถึงเภสัชวิทยา และตอนที่ฝึกงานในโรงพยาบาลนั้นก็ต้องสั่งคนไข้ไปตรวจเลือด ตรวจอุลตร้าซาวนด์ จำเป็นต้องเข้าใจในผลตรวจเบื้องต้น เพื่อใช้ประกอบการรักษาด้วยยาจีน กระทั่งยังเคยเข้าร่วมการผ่าตัดต่าง ๆ ด้วย

ดังนั้นแพทย์จีนยุคปัจจุบันจึงมีความเข้าใจในแพทย์แผนตะวันตกได้ดีระดับนึง พวกเราจึงอ่านค่าผลตรวจร่างกายเบื้องต้นต่าง ๆ ได้ รู้ว่าลักษณะโรคของคนไข้แบบนี้แพทย์จีนสามารถรักษาเป็นหลัก หรือรักษาเสริมอย่างไรจึงจะเป็นประโยชน์กับคนไข้มากที่สุด

คนไข้มักถามผมว่าเข้ากระบวนการเด็กหลอดแก้วอยู่ ทานยาจีนได้หรือไม่ เพราะกลัวว่ายาจะตีกัน ซึ่งในส่วนตรงนี้ผมเข้าใจและถ้าคนไข้ไม่สบายใจก็จะไม่ให้การรักษาอยู่แล้วครับ

แต่ถ้าคนไข้ไว้ใจ แพทย์เจ้าของไข้เข้าใจ เราสามารถจะเตรียมร่างกายคนไข้ให้ดีที่สุดในการเข้ากระบวนการเด็กหลอดแก้วได้นะครับ

ผมมีคนไข้หลายท่านที่ไข่ได้น้อย ไข่กระตุ้นแล้วไม่โต ตัวอ่อนคุณภาพไม่ดี ผนังมดลูกบางใส่ตัวอ่อนไม่ได้ต่าง ๆ เหล่านี้ที่หลังรับการรักษาไปก็ทำให้ตั้งครรภ์สำเร็จ ตรงนี้แพทย์จีนสามารถที่จะเป็นตัวเสริมได้

ด้วยจรรยาบรรณของแพทย์ที่ไม่แตกต่างจากแพทย์ศาสตร์อื่น ๆ เราไม่ได้คิดจะมาหาประโยชน์จากคนไข้ ไม่ได้คิดจะแย่งคนไข้จากแพทย์ศาสตร์ไหน ๆ ไม่ได้คิดจะรบกวนการรักษา เราแค่อยากนำเสนอทางเลือกที่น่าจะเหมาะสมกับคนไข้ที่สุดก็เท่านั้นเองครับ