แชร์ประสบการณ์ภาวะมีลูกยากจากท่อนำไข่ตันและ PCOS

ขอขอบคุณหมอเชนมากค่ะที่ทำให้ดิฉันสามารถต้ังท้องได้ ตอนนี้32สัปดาห์แล้วค่ะเป็นท้องที่สอง ท้องตอนนี้อายุค่อนข้างเยอะ 34ปี ครอบครัวดิฉันอยู่ที่เซินเจิ้นประเทศจีน ก่อนจะหาหมอเชนก็หาแพทย์แผนปัจจุบันที่จีนมาตลอดกับแพทย์ท่านเดิมเพราะท้องแรกก็มีปัญหามีลูกยาก

จนเพื่อนแนะนำให้ลองหาหมอเชนหลังจากฉีดสีแล้วพบว่าท่อรังไข่ตัน

ท้องแรกก็ไม่ได้ตรวจว่าท่อรังไข่ตันจึงชะล่าใจ ท้องสองหาหมออัลตราซาวน์นับวันที่จีนเกือบปี ทั้งฉีดยาทานยากระตุ้นไข่ก็ยังไม่ท้อง จึงตัดสินใจตรวจท่อรังไข่และพบว่าตัน ปกติดิฉันเป็น pcos คือรังไข่ผลิตไข่หลายใบแต่ไม่โตสมบูรณ์พอสุดท้ายก็จะฝ่อไปเอง พอทานยากระตุ้นไข่ที่คุณหมอที่จีนอัลตราซาวน์ขนาดของไข่ก็โตใช้ได้แต่ประจำเดือนก็มาทุกเดือนไม่ท้อง

แชร์ประสบการณ์ภาวะมีบุตรยากจากท่อนำไข่ตันและ PCOS

ก่อนทานยาประจำเดือนดิฉันจะมาสองเดือนครั้ง เคยนานที่สุดประมาณห้าหกเดือนประจำเดือนก็ไม่มา คาดว่าน่าจะเป็นกรรมพันธุ์เพราะพี่สาวน้องสาวก็ประจำเดือนมาไม่ปกติเช่นกัน ท้องแรกนอกจากปัญหาเรื่อง pcos คุณหมอก็พบว่ามดลูกมีเนื้องอกจึงส่องกล้องผ่าตัด คุณหมอที่จีนบอกว่าท่อรังไข่เหมือนจะเดินทางไม่สะดวกนิดหน่อย คุณหมอเลยทำให้ทีเดียว แต่ตอนนั้นไม่ได้ถามว่าทำยังไง พอพาตัดเสร็จเดือนถัดมาก็ท้องเลย (จริงๆแล้วควรเว้นไว้สามเดือนให้แผลในมดลูกหายดีก่อน)

พอท้องสองหลังจากทานยาคุณหมอเชนไปได้ประมาณหนึ่งเดือนก็ตั้งท้องเลย พอไปอัลตราซาวน์คุณหมอก็บอกว่าน่าจะมาจากไข่ฝั่งที่ท่อรังไข่ตัน (จริงๆก็ควรทานยาสักสามเดือนก่อน) ก่อนหน้านี้ถ้าพบคุณหมอเชนแต่แรกก็ไม่ต้องเสียเวลาตรวจอัลตราซาวน์นับวันเป็นปีค่ะ พูดถึงยาคุณหมอ แอบขมอยู่ แต่เพื่อลูกก็ต้องทนค่ะ ไม่คิดว่าจะได้ผลเร็วทันใจ และส่วนตัวก็ไม่รู้สึกว่ามีผลข้างเคียงค่ะ”

หมอเชนเพิ่มเติม:

ท่อนำไข่เป็นท่อที่ลำเลียงไข่ให้ไปเจอกับอสุจิ ถ้าเกิดตีบหรือตันขึ้นมาก็จะลดโอกาสเจอกันของไข่กับอสุจิได้ อารมณ์ประมาณวิญญาณชั้นรอที่ทางช้างเผือก คือ เห็นว่าอยู่ตรงนั้นแหละ แต่ไปเจอกันไม่ได้ครับ

เราจะรู้ได้ไงว่าท่อนำไข่ตัน วิธีที่ง่ายและเจ็บตัวน้อยก็คือการฉีดสีเข้าไปทางปากมดลูก แล้ว x-ray ดูการวิ่งของสีครับ ถ้าท่อไม่ตัน สีก็จะวิ่งผ่านปากมดลูก –> มดลูก –> ท่อนำไข่ –> กระจายฟุ้งๆอยู่ในช่องท้อง ระหว่างฉีดสีเข้าไป หมอก็จะถ่ายภาพ x-ray ไปเรื่อย ๆ เวลาดูภาพ x-ray จึงเห็นว่ามีหลายภาพเพราะถ่ายภาพกันคนละช่วงเวลาและเพื่อดูการวิ่งของสีนั่นเอง

วิธีตรวจอื่นๆก็อย่างเช่นผ่าตัดส่องกล้องครับ โดยการเจาะรูที่ท้องแล้วสอดกล้องเข้าไปดูภาพในช่องท้อง พร้อมกับฉีดน้ำสีๆเข้าทางปากมดลูก น้ำสีๆก็จะไหลตามสเต็ปเดียวกับการฉีดสีที่กล่าวไว้ข้างบน โดยเป้าหมายปลายทางก็คือฟุ้งกระจายในช่องท้อง จากกล้องที่ช่องท้อง เราจึงเห็นน้ำสีๆออกมาจากท่อนำไข่ทั้งสองด้านได้ แสดงว่าท่อไม่ตันครับ การตรวจแบบส่องกล้องนอกจากจะเห็นสีแล้ว ยังสามารถตรวจดูสภาพของรังไข่ มดลูกและพังผืดต่างๆได้ด้วย หากพบของที่ผิดปกติก็อาจจะทำการรักษาไปภายในตัวได้ เช่น เลาะพังผืดออก เป็นต้น

การที่ท่อนำไข่ตีบตันนั้นก็จะทำให้มีลูกยาก เพราะไข่ไม่เจอกับอสุจิ ขณะเดียวกันก็เสี่ยงกับการท้องนอกมดลูกด้วย คนที่มีประวัติท่อนำไข่ตัน หากตั้งครรภ์ในช่วงแรกจึงควรต้องตรวจอัลตร้าซาวน์อยู่เรื่อยๆเพื่อดูว่าตัวอ่อนนั้นฝังตัวอยู่ในโพรงมดลูกจริง ไม่ใช่คาอยู่ที่ท่อนำไข่ เพราะท้องนอกมดลูกจะทำให้เสียเลือดมากและมีโอกาสเสียชีวิตได้ครับ หรือถ้าคุณไม่รู้ว่าตัวเองท่อนำไข่ตัน แต่ถ้าหากตั้งครรภ์แล้วปวดท้องรุนแรงมากก็ควรรีบไปหาหมอนะครับ เพราะอาจจะเป็นกรณีนี้ก็ได้ สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ การจำประจำเดือนครั้งล่าสุดว่ามาเมื่อไหร่จะช่วยให้หมอวินิจฉัยได้ดีขึ้น ดังนั้นผู้หญิงจึงควรจะจดบันทึกประจำเดือนของตัวเองนะครับ

หากท่อนำไข่ตีบหรือตันเพียงข้างเดียว คุณก็อาจจะตั้งครรภ์ตามธรรมชาติได้ เพียงแต่ว่าต้องเข้าใจก่อนว่าธรรมชาติของผู้หญิงไข่ตกเพียงเดือนละฟอง แต่ตกข้างซ้ายหรือขวานั้นไม่แน่นอน ไม่ได้ตกสลับซ้ายขวากันไปมาทุกเดือนนะครับ ฉะนั้นถ้าไข่ดันตกด้านที่ท่อนำไข่ตัน โอกาสตั้งครรภ์ก็จะต่ำ ต้องรอไปเรื่อยจนกว่าจะตกไข่ด้านที่ไม่ตัน เราจะรู้ได้ว่าตกไข่ด้านไหนก็จากการทำอัลตร้าซาวน์ช่วงก่อนกลางรอบเดือน สักวันที่12 นับจากประจำเดือนมาวันแรก หากเป็นคนรอบเดือนปกติก็มักจะเห็นไข่ขนาดค่อนข้างสมบูรณ์อยู่ในรังไข่แล้ว ไข่สมบูรณ์ข้างไหนก็จะตกข้างนั้นครับ

คนที่ต้องการมีบุตร ถ้าเกิดตันหนึ่งข้างหรือแค่ตีบก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ตามธรรมชาติครับ อาจจะใช้การกระตุ้นตกไข่+ฉีดเชื้อ (IUI) แม้ว่าการฉีดเชื้อจะให้ผลสำเร็จที่ไม่สูงเพียงประมาณ 10กว่าเปอร์เซนต์ ซึ่งสามารถลดระยะทางการวิ่งของอสุจิในกรณีอสุจิไม่แข็งแรง

แต่หากเกิดตันทั้งสองข้าง ทางออกต้นๆของแพทย์แผนปัจจุบันก็คือทำเด็กหลอดแก้ว (IVF, ICSI) เพราะเป็นการผสมกันนอกร่างกาย แล้วย้ายกลับเข้าไปฝังในโพรงมดลูก ท่อนำไข่ไม่มีส่วนร่วมใดๆทั้งสิ้น แถมยังเลือกเพศ เลือกโครโมโซมได้ด้วย แน่นอนว่าข้อเสียคือค่าใช้จ่ายที่สูงเป็นแสนตามแต่ชื่อชั้นและสถานที่ของโรงพยาบาลหรือคลินิกนั้น ๆ ซึ่งคนที่รายได้ไม่สูงก็คงจะลำบาก

แพทย์จีนมองง่ายๆว่าการที่ท่อนำไข่อุดตันนั้น แสดงว่ามันต้องมี “อะไร”ไปอุดท่อนำไข่ ซึ่ง “อะไร”ที่ว่าก็มักจะเป็น “เลือดคั่ง”โดยสาเหตุของเลือดคั่งก็หลากหลายกันไป เช่น อาจเกิดจากอารมณ์ความเครียด ที่ทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดีและเกิดคั่งขึ้น ซึ่งผมมองว่าเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของผู้หญิงยุคนี้ เพราะฉะนั้นใครที่คัดหน้าอกก่อนเมนส์มามาก ๆ นั่นเป็นสัญญานหนึงที่บอกว่าลมปราณการไหลเวียนของเลือดเริ่มไม่ดีแล้วนะครับ ควรร่าเริงโดยด่วน

หรือเกิดจากความร้อนชื้น ทำให้เลือดข้นจนคั่ง ซึ่งก็ล้อกับกลุ่มอาการอุ้งเชิงกรานอักเสบทางแผนปัจจุบัน ถ้ามีอาการปวดท้อง ไข้ขึ้น ตกขาวเหลืองเขียวอะไรเหล่านี้ควรรีบหาหมอนะครับ เพราะมักเป็นอาการเบื้องต้นของอุ้งเชิงกรานอักเสบ ควรรีบรักษาเพื่อตัดปัญหาเรื่องทำนำไข่ตันในอนาคต นอกจากนี้ยังอาจมีการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ เช่น เชื้อ Chlamydia ที่บางครั้งมักไม่แสดงอาการอะไร เพราะฉะนั้นผู้หญิงคนไหนที่สามีมีประวัติซุกซนก็ควรระวังเรื่องนี้ไว้บ้าง

แพทย์จีนเวลารักษาก็จะให้ยาที่ใช้สลายเลือดคั่ง สนับสนุนการไหลเวียนของเลือดและลมปราณ และให้ยาที่มีฤทธิ์ทะลุทะลวงท่อนำไข่ โดยวัตถุประสงค์เพื่อให้ท่อนำไข่หายตันนั่นเอง