เนื้องอกมดลูก
มีก้อนในมดลูกไม่ควรทานยาสมุนไพร?

โดยปกติแล้ว “ยาสมุนไพร” จะตกเป็นผู้ต้องสงสัยในเรื่อง “ฮอร์โมน“ อยู่เสมอ เพราะหลายต่อหลายครั้งคนไข้ทานยาสมุนไพรเข้าไปแล้วมดลูกมีก้อนขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นช็อคโกแลตซีสต์หรือเนื้องอก หรือจากที่มีอยู่แล้วก็ใหญ่ขึ้น จำนวนเยอะขึ้น จนทำให้มีลูกยากยิ่งขึ้นไปอีก

แต่หากสอบถามละเอียดมากขึ้นจะพบว่า หลายท่านหา “ยาสมุนไพร” มาทานเองโดยไม่ได้ให้หมอตรวจวินิจฉัย เห็นใครว่ากินดีก็ไปซื้อมากิน ยาสมุนไพรเมื่อทานไม่ถูกโรค จากคุณก็กลายเป็นโทษน่ะสิครับ
ถามว่ายาสมุนไพรมี “ฮอร์โมน” ไหมก็ต้องตอบว่า มีครับ
แต่ยาสมุนไพรก็เหมือนพืชผักอื่นๆที่มีฮอร์โมนในตัว เช่น น้ำมะพร้าว นมถั่วเหลืองต่างก็มีฮอร์โมนเอสโตรเจนอยู่ ถ้าคุณกล้ากินพืชผักในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว ก็ไม่ควรกลัวยาสมุนไพรจนเกินเหตุครับ
ก้อนในมดลูกนั้นมักเกิดจากฮอร์โมนดังที่เราเข้าใจ ดังนั้นถ้าเรามีประจำเดือนมาอยู่ มันก็มีโอกาสที่จะเกิดก้อนขึ้น หรือก้อนโตขึ้นได้ การรักษาทางแผนปัจจุบันจึงเน้นไปทางหยุดประจำเดือน ฉีดยากดฮอร์โมนเพื่อให้ร่างกายมีลักษณะคล้ายวัยทอง
วิธีนี้ดีต่อการรักษาก้อนเหล่านี้ แต่ขณะเดียวกันคุณก็ไม่สามารถมีลูกได้ครับ
บางครั้งก้อนในมดลูก หรือรังไข่ยังไม่ใหญ่มากราว 1-3 ซม. จะให้ฉีดยาฮอร์โมนหยุดประจำเดือนเพื่อรักษาเหรอก็เร็วไป จะลองปล่อยตั้งครรภ์ก็แอบเสียวเหมือนกันว่าก้อนจะใหญ่ขึ้นไหม
ในช่วงเวลาแบบนี้แพทย์แผนจีนพอจะเข้ามาตอบโจทย์การรักษาได้อยู่ครับ
แพทย์แผนจีนมองว่าการมีก้อนในร่างกายนั้น เกิดจากเลือดไหลเวียนไม่สะดวก กลายเป็นเลือดคั่ง นานวันเข้าจึงกลายเป็นก้อนขึ้น แนวทางการรักษาจึงต้องเพิ่มการไหลเวียนเลือด สลายก้อน
เพียงแต่การรักษาโรคนั้นควรแบ่งเร็ว ช้า หนัก เบา ดูว่า ณ ขณะนั้นคนไข้ควรได้รับการรักษาอย่างไร
ถ้าหากซีสต์หรือเนื้องอกนั้นมีขนาดใหญ่ ตำแหน่งขัดขวางต่อการตั้งครรภ์ชัดเจน ก็ควรที่จะรักษาซีสต์ เนื้องอกเหล่านั้นก่อน
แต่ถ้าเป็นเหมือนที่กล่าวไปว่าก้อนขนาดไม่ใหญ่ อยากมีลูก แต่ก็ไม่อยากปล่อยไปเรื่อยๆ เพราะกลัวว่าวันนึงมันจะใหญ่ขึ้น
เคสแบบนี้ควรกระตุ้นการไหลเวียนเลือด สลายซีสต์อย่างเหมาะสม ยาต้องแรงพอที่ยับยั้งการโตของซีสต์ได้ ขณะเดียวกันยาก็ต้องไม่แรงเกินจนเสี่ยงแท้งลูกได้
ตรงนี้ประสบการณ์ของหมอมีความสำคัญมากครับ
เคสที่แชร์นี้ต้องการมีบุตร แต่มีทั้งซีสต์และเนื้องอก ผมจึงให้ยาที่แรงพอจะยับยั้ง ขณะเดียวกันก็บำรุงมดลูกรังไข่ไปด้วย คนไข้ตอบสนองต่อยาดีจนขนาดเนื้องอกและซีสต์ไม่เพียงไม่โตขึ้น แต่ยังเล็กลงอีกด้วย ก็เหลือรอลุ้นเรื่องการตั้งครรภ์แล้วแหละครับ
จึงขอสรุปตรงนี้ว่าการที่มดลูกมีก้อนนั้นไม่ใช่ว่าทานยาสมุนไพรไม่ได้ แต่ควรพบหมอเพื่อให้จ่ายสมุนไพรอย่างถูกต้องเหมาะกับโรคของเราต่างหากครับ
- ฝังเข็ม&ยาจีน การเตรียมร่างกายก่อนทำเด็กหลอดแก้วฝังเข็ม&ยาจีน การเตรียมร่างกายก่อนทำเด็กหลอดแก้ …
- FSH สูง ช็อคโกแลตซีสต์ก็เป็น เนื้องอกมดลูกก็มี ย้ายตัวอ่อนไป 5 รอบก็ยังไม่ติด ทำยังไงดี?FSH สูง ช็อคโกแลตซีสต์ก็เป็น เนื้องอกมดลูกก็มี ย้าย …
- ภาวะมีลูกยากจากเนื้องอกมดลูก แบบไหนควรผ่าตัดก่อนปล่อยตั้งครรภ์ภาวะมีลูกยากจากเนื้องอกมดลูก แบบไหนควรผ่าตัดก่อนปล่ …
- ท่อนำไข่ตันแล้วทำไมเมนส์ถึงมาปกติเคยได้ยินคำถามลักษณะนี้คิดว่าที่คนไข้ถามแบบนี้ก็เพร …
- แชร์ประสบการณ์ภาวะมีลูกยากจากท่อนำไข่ตันและ PCOSแชร์ประสบการณ์ภาวะมีลูกยากจากท่อนำไข่ตันและ PCOS ขอ …