ก็น่าจะเข้าใจและเห็นภาพกันมากขึ้นนะครับ ซึ่งการทำงานแบบนี้ไม่สนใจว่าไข่จะผ่านท่อนำไข่ได้หรือไม่ก็ตามนั่นเองครับ

ผมว่าสาเหตุที่คนไข้ถามคำถามแบบนี้เป็นเพราะว่าอยากจะรู้ว่าอาการแบบไหนถึงมีความเสี่ยงเรื่องท่อนำไข่ตันมากกว่า

ผมขอสรุปคร่าวๆให้ว่าท่อนำไข่ตันอาจจะไม่มีอาการอะไรเลย บางคนไม่รู้ว่าเป็นจนกว่าจะไปฉีดสีหรือส่องกล้องผ่านหน้าท้องเข้าไปดูข้างใน (เป็นสองวิธีหลักในการตรวจดูว่าท่อนำไข่ตันไหม)

หรือบางคนอาจจะมีประวัติอุ้งเชิงกรานอักเสบแบบฉับพลันหรือเรื้อรัง เคยมีตกขาวมากร่วมกับการเป็นไข้สูง ปวดท้องหนัก (ซึ่งตั้งแต่ตรวจมามักไม่ค่อยพบ) แล้วไม่รักษาให้หายสนิท

บางคนอาจมีประวัติเปลี่ยนคู่นอนบ่อยหรือสามีเปลี่ยนคู่นอนบ่อย (แหะๆ) จึงมีความเสี่ยงในการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์สูงซึ่งทำให้ภายในอักเสบและลามไปถึงท่อนำไข่ได้ถ้าเป็นเคสนี้อาการที่น่าสังเกตก็คือมักจะมีความผิดปกติที่อวัยวะเพศหลังจากมีเพศสัมพันธ์เกือบทุกครั้ง เช่น มีตกขาว แสบคันอวัยวะ ปวดท้อง เป็นต้น ถ้าเป็นแบบนี้ต้องจับฆ่าทิ้งก่อนถึงจะรักษาได้ผล (ฆ่าเชื้อนะครับไม่ใช่ฆ่าสามี(≧▽≦)/)

บางคนมีสาเหตุจากเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่หรือช็อกโกแลตซีสที่เราคุ้นเคย ซึ่งโรคนี้จะทำให้เราเกิดการอักเสบในอุ้งเชิงกรานทำให้เกิดพังผืดรัดท่อนำไข่จากภายนอกได้

หรืออาจจะมีเนื้องอกมดลูกติ่งเนื้อในโพรงมดลูกที่ไปบดบังทางเข้าท่อนำไข่ก็เป็นได้

การรักษาทางแพทย์แผนจีนนั้นจะลองใช้การทานยาจีนและฝังเข็มรักษาสามเดือนก่อน จากนั้นจะให้ไปตรวจซ้ำอีกครั้งว่ายังท่อนำไข่ตันอยู่หรือเปล่า ถ้าหากว่ายังตันอยู่แล้วยังอยากมีน้อง เด็กหลอดแก้วคงเป็นคำตอบสุดท้ายครับ ซึ่งจากที่รักษามาก็มีเคสที่ท่อนำไข่ตันสองข้างแล้วหายตันได้หรือตั้งครรภ์ได้เองตามธรรมชาติแชร์อยู่ครับ สามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้ครับ