ช็อกโกแลตซีสต์ขับออกจากมดลูกได้ด้วยยาป่ายฟุ่ง?
มีพี่ท่านนึงแจ้งเบาะแสจากเพจ drama-addict เกี่ยวกับการที่กินยาป่ายฟุ่งรักษาช๊อกโกแลตซีสต์ครับ ลิ้งค์
ในฐานะที่เป็นแพทย์จีนด้านนรีเวชก็เลยจะขอให้ข้อมูลนะครับ ประกอบกับช่วงนี้ยิ่งมีคนมาถามหาซื้อยาป่ายฟุ่งกับผมอีก ซึ่งผมไม่ได้ใช้ยานี้รักษาคนไข้อยู่แล้ว และก็มักต้องคอยเตือนหลาย ๆ ท่านด้วยว่าเคสของเราไม่ได้เหมาะกับยานี้นะ อย่าไปหามากินเลย
ก็เลยย้อนกลับไปอ่านเรื่องราวในเพจต้นเรื่องพบว่า จขกท.ตรวจพบถุงน้ำที่รังไข่ทั้งสองข้างรวมจำนวน 5 ก้อน ในผลตรวจไม่ได้ระบุว่าเป็นถุงน้ำอะไรกันแน่
(ซีสต์หรือถุงน้ำที่รังไข่มันมีอยู่หลายประเภทนะครับ อาจจะเป็นถุงไข่ปกติที่หายไปได้เอง หรืออาจจะเป็นช็อคโกแลตซีสต์ เดอมอยส์ซีสต์ (ที่มีฟัน กระดูกอยู่ข้างใน) หรือมะเร็งก็เป็นได้ อัลตร้าซาวด์อย่างเดียวไม่สามารถฟันธงได้ 100% ว่ามันคือซีสต์อะไร ต้องตัดออกมาแล้วเอาไปตรวจครับ อย่างไรก็ตามจขกท.ระบุว่าเป็นช็อคโกแลตซีสต์)
คุณหมอที่ตรวจพบให้รอดูก่อน 6 เดือนโดยยังไม่ต้องทำอะไร คนไข้เลยใจไม่ค่อยดีที่จะรอเฉย ๆ อีกทั้งตัวเองก็อยากมีบุตร
(ตรงนี้ผมเห็นใจคนไข้จขกท.นะครับ คุณหมอน่าจะนัดสั้นกว่านี้ เช่น 3 เดือนตรวจซ้ำ หรือถ้าคิดว่าเป็นช็อกโกแลตซีสต์ก็อาจจะให้ทานยาฮอร์โมนสักสามเดือนควบคู่ไปด้วย แต่ก็มีความเป็นไปได้หลายอย่าง
1. หมอเห็นว่าจขกท.อยากมีบุตร ถ้าจะรักษาด้วยฮอร์โมนจะมีบุตรไม่ได้ เลยแนะนำให้ไปลองมีบุตรดูก่อน
2. เห็นว่าไม่ได้เป็นซีสต์ที่อันตราย อาจจะหายไปได้เอง เลยนัดมาตรวจอีกครั้งเฉย ๆ )
จขกท. ได้ปรึกษากับคุณหมอแผนตะวันออกที่สิงคโปร์ โดยคุณหมอท่านนั้นแนะนำให้ทานยาป่ายฟุ่ง พอทานได้สองอาทิตย์ก็มีถุงน้ำหรือช็อคโกแลตซีสต์หลุดออกมาจากทางช่องคลอด
(อันนี้จ่าพิชิตซึ่งก็เป็นหมอได้ชี้แจงชัดเจนดีครับ คือ ไม่ว่าจะเป็นซีสต์ชนิดไหนก็ตาม ไม่มีทางที่จะลอดเข้าท่อนำไข่ที่รูแสนเล็กแล้วขับออกมาทางมดลูกได้หรอกครับ อย่าไปโดนคนขายยาหลอกนะครับ ส่วนตัวผมดูรูปแล้วคิดว่าน่าจะเป็นเยื่อบุโพรงมดลูกครับที่หลุดออกมา แต่จะชัดเจนก็ต่อเมื่อเอาชิ้นเนื้อนี้ไปตรวจครับ)
ยาป่ายฟุ่งโด่งดังมากในเวบไซต์และกระทู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับการรักษามีลูกยาก เชื่อว่าถ้าคนเป็นโรคนี้แล้วลองเสริชอินเตอร์เนตดูจะต้องเคยผ่านตามาอย่างแน่นอน
ด้วยราคาที่ไม่แพง กินง่าย หาซื้อได้ไม่ยาก และมีคนทานแล้วได้ลูกมารีวิวอยู่เรื่อย ๆ จึงไม่แปลกใจที่ครอบครัวมีลูกยากหลาย ๆ คนจะหามาลองทานดู ยิ่งได้ชื่อว่าเป็นยาที่ทำจากสมุนไพร ยิ่งทำให้คนรู้สึกว่าไม่ค่อยมีผลข้างเคียง กิน ๆ ไปก็ไม่เห็นจะเป็นไร ซึ่งเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องนะครับ
ภาษิตจีนว่าไว้ “是药三分毒” “ขึ้นชื่อว่าเป็นยาแล้ว ล้วนมีพิษอยู่สามส่วน” สอนให้เราเข้าใจว่าต่อให้เป็นยาสมุนไพรก็ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัย 100% นะ พิษตรงนี้สามารถแบ่งออกเป็นสองส่วน หนึ่งคือตัวยานั้นมีพิษอยู่แล้ว สองคือยาไม่ถูกกับโรคและร่างกายของเรา กินเข้าไปยิ่งทำให้เสียสมดุล อาการที่เกิดขึ้นจะยิ่งรุนแรงหรือมีอาการใหม่ ๆ เกิดขึ้นอีก เช่น ร่างกายเราเย็นอยู่แล้ว ควรจะกินยาอุ่นเพื่อปรับสมดุล แต่เราดันหายาเย็นตามท้องตลาดมากิน ก็จะยิ่งทำให้ร่างกายเย็นมากขึ้นไปอีกนั่นเอง
ดังนั้นผมจึงต่อต้านการหายามาทานเอง แม้จะเป็นยาสมุนไพรก็ตาม
ยาป่ายฟุ่งประกอบไปด้วยตัวยาตามสูตรข้างล่างนี่ ส่วนประกอบหลักคือ ไก่ดำ เขากวาง โสม ตะพาบ ปั๊กคี้ ตังกุย เส็กตี่ ซัวเอียะ ชะเอมเทศและอื่น ๆ ซึ่งฟังดูบำรุงกำลังดีมาก ๆ สรรพคุณที่เขาตั้งใจจะทำตำรับยานี้ขึ้นมาก็เพื่อบำรุงเลือดลม ปรับประจำเดือน ใช้ในคนผอม ปวดเมื่อยเอวหลัง ซึ่งจากการบำรุงนี้และปรับประจำเดือนนี้เองที่ส่งผลให้ผู้หญิงมีสมดุลมากขึ้น และตั้งครรภ์ได้
อ่านถึงตรงนี้ก็อย่ารีบคลิกซื้อป่ายฟุ่งกันไปนะครับ เพราะว่าการมีลูกยากเนี่ย มันต้องดูที่สาเหตุครับ โดยหลัก ๆ มีดังนี้
- ฝ่ายชายอสุจิไม่แข็งแรง
- ประจำเดือนไม่ปกติ
- ท่อนำไข่อุดตัน
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
- การอักเสบในอุ้งเชิงกราน ปากมดลูก
- โครโมโซม ภูมิคุ้มกันผิดปกติ อื่น ๆ
ถ้าเป็นที่อสุจิผู้ชาย คุณผู้หญิงจะกินป่ายฟุ่งหมดเป็นร้อย ๆ กล่องก็ไม่ช่วยอะไรนะครับ คนที่ค่อนข้างเหมาะสมกับการกินป่ายฟุ่งคือ คนที่ประจำเดือนไม่ปกติ ร่างกายอ่อนแรง เหนื่อยง่าย ขี้หนาว อันนี้ค่อนข้างอะลุ้มอล่วยให้ลองหาทานดูได้ แต่ถ้าทานแล้วประจำเดือนแย่ยิ่งกว่าเดิมก็ควรจะหยุดทานนะครับ
ท่อนำไข่อุดตันนั้นมักเกิดจากการอักเสบของอุ้งเชิงกราน การผ่าตัด และโดยเฉพาะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ในกลุ่มผู้ป่วยมีลูกยากนั้น 30-40% จะพบโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่อยู่ด้วย ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่สูงมาก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือที่บางคนอาจจะรู้จักกันในนามช๊อคโกแลตซีสต์นั้นจะทำให้รังไข่ทำงานไม่ดี เกิดการอักเสบในอุ้งเชิงกราน เกิดพังผืดในช่องท้องซึ่งอาจจะทำให้ท่อนำไข่บิดเบี้ยวหรืออุดตันได้
โดยที่เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่นี้จะเติบโตตามฮอร์โมนเอสโตรเจน แต่การที่กินยาป่ายฟุ่งบำรุงเพื่อปรับประจำเดือนนี้มักเสี่ยงกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศหญิงในร่างกาย จึงเสี่ยงกับการที่บำรุงให้ซีสต์มีขนาดใหญ่ขึ้นตามไปด้วย ซึ่งก็อาจจะส่งผลต่อการเกิดพังผืดต่าง ๆ ได้
และถึงแม้จะไม่มีซีสต์ แต่ยาป่ายฟุ่งก็ไม่ได้ช่วยในเรื่องของท่อนำไข่และการอักเสบในอุ้งเชิงกรานอยู่ดี กินไปจึงไม่ได้ผลอะไร อีกทั้งถ้าเกิดแพทย์จีนมองว่ามีพิษร้อนชื้นสะสมอยู่ที่บริเวณช่องท้องส่วนล่าง (下焦湿热) ยังอาจทำให้อุ้งเชิงกรานอักเสบมากขึ้น ตกขาวเปลี่ยนเป็นสีเหลือง แสบคันอวัยวะเพศได้ กลับกลายเป็นผลเสียต่อการมีลูกเข้าไปอีกครับ
ทุกวันนี้คนไข้ท่อนำไข่ตันก็พบได้บ่อยพอสมควรครับ บางท่านก็ไม่มีอาการอุ้งเชิงกรานอักเสบ ไม่ได้เป็นซีสต์ แต่พอไปตรวจเจอดันเป็นท่อนำไข่ตันซะงั้น โดยมากกลุ่มนี้มักเกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ซึ่งหากคู่นอนของคุณเป็น ก็มักจะติดต่อกันได้ มักไม่มีอาการมาก หรือจะมีตกขาวผิดปกติ โดยเฉพาะหลังมีเพศสัมพันธ์เกือบทุกครั้ง หรือมีเลือดออกตอนมีเพศสัมพันธ์ได้ โดยเมื่อติดเชื้อแล้วสามารถทำให้ปากมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกและท่อนำไข่อักเสบได้ ซึ่งก็ส่งผลทำให้ท่อนำไข่อุดตันและมีลูกยากครับ และแน่นอนว่าป่ายฟุ่งก็รักษาไม่ได้อีกอยู่ดี ยิ่งเรื่องโครโมโซม ภูมิคุ้มกันนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
สรุป
- ผมไม่ได้ขายป่ายฟุ่ง
- ผมไม่สนับสนุนให้ซื้อยามากินเอง พบแพทย์นะครับ
- ซีสต์ทุกชนิดขับออกมาทางช่องคลอดไม่ได้ครับ
- มีบุตรยากมีหลายสาเหตุ หาให้เจอก่อนแล้วรักษาไปตามนั้นครับ
- ในส่วนของจขกท.ก่อนกินยาป่ายฟุ่งก็ได้ปรึกษาหมอแผนตะวันออกมาก่อนอยู่แล้ว ผมคงไม่แสดงความเห็นในการรักษาอะไร ก็ขออวยพรให้ซีสต์หายไว ๆ ได้ลูกสมใจครับ
ทำนัดปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ 094-794-6006
หรือ เข้าเยี่ยมชม Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/chenyinyangclinic
หยินหยางคลินิก 999/1-2 ถนนรัชดา-รามอินทรา แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพ 10230